กำแพงเมืองจีน-Great wall | รอบรู้เมืองจีน

กำแพงเมืองจีน-Great wall



กำแพงเมืองจีน หรือแปลว่า Great wall ในภาษาอังกฤษ และมันเป็นกำแพงที่แทบทุกคนในโลกรู้จักกันดี มีนักท่องเที่ยวนับล้านคนไปเยือนกำแพงเมืองจีนแห่งนี้ทุกปี มันเป็นอนุสาวรีย์ทางประวัติศาสตร์ที่ยาวกว่าอนุสาวรีย์ใดๆที่เคยสร้างมาในประวัติโลก และเป็นผลงานทางด้านวิศวกรรมที่ยิ่งที่สุด เป็นรองก็แค่เพียงมหาปิรามิดแห่งกิซ่า กำแพงเมืองจีนเริ่มก่อสร้างเมื่อประมาณ สองพันกว่าปีมาแล้ว และมันก็ยังคงอยู่ถึงปัจจุบัน หลายล้านคนได้ตายไปในการก่อสร้างกำแพงเมืองจีน จนมันได้ฉายาว่า “สานที่ยาวที่สุดในโลก”
กำแพงเมืองจีนมีความยาวรวมทั้งสิ้นกว่า 4,000 ไมล์(กว่า 6,400 กิโลเมตร) โดยมันเริ่มตั้งต้นที่ชายฝั่งของแม่น้ำเหลือง ทอดผ่านขุนเขาตอนเหนือของปักกิ่ง เข้าสู่ดินแดนใจกลางภาคเหนือของประเทศจีน มันมีปราสาทที่แข็งแกร่งและหอเฝ้ายามตามเส้นทางภูเขาที่สำคัญ กำแพงเมืองจีนยาวตลอดถึงแนวฝั่งแม่น้ำสายใหญ่ๆ แล้วทอดผ่านทะเลยทรายที่ร้างจากผู้คนไปอีกหลายพันกิโลเมตร และกำแพงเมืองจีนไปสิ้นสุดที่เหนือแม่น้ำขาว
แต่ก็มีการค้นพบใหม่ๆว่า จริงๆแล้วกำแพงเมืองจีนนั้นที่ถูกสร้างขึ้นทั้งหมดนั้นหากนำมาวางต่อกันจะยาว 35,000 ไมล์ ซึ่งเท่ากับ 56,000 กิโลเมตร ซึ่งความยาวขนาดนี้แทบจะนำมาพันรอบโลกได้ 2 รอบ ซึ่งจุดประสงค์ในการการก่อสร้างกำแพงเมืองจีนที่ยิ่งใหญ่และสิ้นเปลืองงบประมาณมหาศาลก็เพื่อ ป้องกันการรุกรานของฝูงชนเร่ร่อนแห่งทุ่งราบตอนเหนือก็คือพวก มองโกล ฮั่น และ แมนจู ที่มักจะมาปล้น ฆ่า และเผาทำลายหมู่บ้านชาวจีนเป็นจำนวนมาก ซึ่งชาวจีนจะเรียกคนพวกนี้ว่า “คนเถื่อน”
การสร้างกำแพง ฝังรากลึกลงในจิตใจของชนชาวจีน จนตัวอักษรคำว่า “เมือง” ในภาษาจีน เป็นตัวอักษรเดียวกับคำว่า “กำแพง”
กำแพงเมืองจีนถูกสร้างขึ้นในสมัยจิ๋น ซี ฮ่องเต้ ซึ่งคำว่า ประเทศ “จีน” ก็ถูกตั้งตามชื่อของจักรพรรดิ จิ๋น ซึ่งเป็นจักรพรรดิองค์แรกแห่งประเทศจีน นี่เอง พระองค์เริ่มก่อสร้างกำแพงเมืองจีนเมื่อช่วง 200 ปี
ก่อน คริสต์กาล โดยกำแพงเมืองจีนเริ่มจากเมืองหลินเทาซึ่งอยู่ภาคกลางของประเทศ ผ่านทะเลทรายข้ามเทือกเขาและที่ราบ ยาวตลอดมาถึงชายแดนเกาหลี ซึ่งกำแพงเมืองจีนที่มีความยาวกว่า 6,400 กิโลเมตรนั้นถูกสร้างขึ้นโดยใช้เวลาเพียง 12 ปี โดยมีขนาดความสูง 9.6 เมตร กว้าง 4.5 เมตร ในตอนแรกกำแพงเมืองจีนแห่งนี้สร้างขึ้นจากหินเมื่อไปถึงทะเลทรายมันก็เปลี่ยนเป็นอิฐที่ทำจากโคลน
ในตอนแรกๆของผู้สร้างกำแพงเมืองจีนนั้น จิ๋น ซี ฮ่องเต้ ปกครองแคว้นเล็กๆ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีนแต่แค่นั้นยังไม่พอ จิ๋น ซี ฮ่องเต้ก็ได้สร้างความแข็งแกร่งให้กับกองทัพขึ้นเรื่อยๆและพิชิตเมืองเพื่อนบ้านน้อยใหญ่ และเมื่อทั้งจีนอยู่ใต้การปกครองของ จักรพรรดิพระองค์นี้ พระองค์ได้ตั้งมารตฐานระบบการวัด สร้างเงินตราสกุลแรกของโลก แต่ถึงแม้พระองค์จะทรงทำประโยชน์ให้กับจีนอย่างมาก แต่พระองค์ก็เป็นจอมเผด็จการที่ชั่วร้าย โดยในช่วงเริ่มแรกหลังจากรวมแผ่นดินจีนเป็นปึกแผ่นดีแล้วจักรพรรดิจิ๋นก็ส่งทหารสามแสนนายไปยังชายแดนทางเหนือเพื่อขับไล่พวกเร่ร่อนที่เคยคุกคามพระเทศจีน แต่หลังจากที่ชนะสงครามแล้ว จักรพรรดิก็สั่งให้ทหารอยู่ที่นั่นต่อเพื่อสร้างกำแพงเมืองจีน พร้อมกับชาวบ้านอีกกว่า 5 แสนคน
กำแพงเมืองจีนนั้นแม้จะสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนชาวจีนอย่างมาก แต่มันแลกมาด้วยความเหนื่อยยาก และชีวิตนับล้านที่ต้องตายเพราะหมดแรง จนมีคนบอกว่า จำนวนคนที่ตายเพราะสร้างกำแพงเมืองจีนนั้นมากมายมหาศาลจนทำให้ปูนที่ใช้สร้างกำแพงกลายเป็นสีขาวเพราะเถ้ากระดูกเลยทีเดียว

การก่อสร้างกำแพงเมืองจีน

ช่วงที่หนึ่งของการสร้างกำแพงเมืองจีนถูกสร้างขึ้นด้วยดินอัดแข็งซึ่งยังคงเป็นเทคนิคซึ่งยังใช้อยู่ทุกวันนี้ในชนบทของจีน โดยขั้นตอนแรกนั้นวางไม้กระดานเรียงขนานกันให้กว้างเท่ากับความหนาของกำแพง จากนั้นตักดินใส่ตรงกลางระหว่างช่องว่างของไม้กระดาน พรมน้ำลงไปแล้วอัดให้แน่นด้วยการเหยียบของคน จากนั้นก็เรียงไม้ให้สูงขึ้นไปเรื่อยๆ แล้วกำแพงก็สูงขึ้นทีละชั้น ซึ่งวิธีการสร้างกำแพงแบบนี้ประหยัดและเร็วกว่ากำแพงที่สร้างด้วยหินนับร้อยเท่า จักรพรรดิจิ๋น จึงสามารถสร้างกำแพงเมืองจีนยาว 6,500 กิโลเมตรเสร็จภายในเวลาเพียงแค่ 12 ปีเท่านั้น ซึ่งกำแพงเมืองจีนที่สร้างขึ้นมานั้นสามารถอยู่มาได้จนถึงปัจจุบันแม้จะผ่านมามากกว่า 2,200 ปีแล้วก็ตาม
ช่วงที่สองของการสร้างกำแพงเมืองจีน : แม้ว่าจักรพรรดิจิ๋นจะสร้างกำแพงเมืองจีนด้วยเลือดและชีวิตของประชาชน  แต่ราชวงศ์ใหม่ “ฮั่น” ที่ปกครองประเทศจีนหลังจากจักรพรรดิจิ๋นสิ้นพระชนม์ไปแล้ว ก็ได้สานต่องานสร้างกำแพงเมืองจีนต่อในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 1 โดยราชวงศ์ฮั่นในตอนนั้นได้สร้างกำแพงเมืองจีนที่มีความยาวกว่า 10,720 กิโลเมตร ซึ่งมันยาวกว่ากำแพงเมืองจีนที่จักรพรรดิจิ๋นทรงสร้างขึ้นในตอนแรกเกือบ 3, 500 กิโลเมตร กำแพงของราชวงศ์ฮั่นถูกสร้างขึ้นด้วย ทรายที่นำมาอัด กิ่งไม้พุ่ม และปุ๋ยขี้ม้า
ช่วงที่สามของการสร้างกำแพงเมืองจีน : ในช่วงสมัยของราชวงศ์หมิง ได้มีการก่อสร้างกำแพงเมืองจีนช่วงที่ 3 ซึ่งในการสร้างครั้งนี้ เป็นการสร้างกำแพงเมืองจีนที่ยิ่งใหญ่กว่าการสร้าง 2 ครั้งแรกที่ผ่านมาของจักรพรรดิจิ๋นและ ราชวงศ์ฮั่น กำแพงเมืองจีนของราชวงศ์หมิงสร้างขึ้นด้วยหิน กำแพงเมืองจีนของราชวงศ์หมิงนี้ทอดยาวจากซานไฮกวานที่ทะเลเหลือง ถึง ไจยูกวานในทะเลทรายโกบี มันพาดผ่านประเทศจีนเหมือนกระดูสันหลังที่คดเคี้ยวมีความยาวเกือบ 6,500 กิโลเมตร พร้อมกับหอคอยอีกนับพัน เพื่อป้องกันการบุกรุกของพวกคนเถื่อน โดยการกำแพงเมืองจีนจากหินนั้นต้องใช้แรงงานและงบประมาณมากกว่าการสร้างกำแพงด้วยอิฐโคลนหลายร้อยเท่า ซึ่งแรงงานที่นำมาใช้เพื่อสร้างกำแพงหินนี้มาส่วนใหญ่มาจากเหล่านักโทษ ซึ่งถ้าหากว่านักโทษคนใดตายระหว่างการก่อสร้าง สมาชิกคนอื่นในครอบครัวจะถูกนำมาเพื่อก่อสร้างกำแพงเมืองจีนแทนคนที่ตายไปจนกว่าจะครบโทษ

การป้องกันผู้รุกรานของกำแพงเมืองจีน


ด้วยความที่กำแพงเมืองจีนนั้นยาวมาก จนไม่สามารถที่จะทำให้มีทหารเฝ้าตลอดความยาวของแพงได้ ชาวจีนจึงใช้วิธีส่งสัญญาเพื่อแจ้งข่าวถ้าหากมีการบุกรุกเช้ามา โดยใช้ควัน ซึ่งข่าวสารสามารถส่งต่อไปได้ไกล 700 ไมล์ ในเวลาแค่ 24 ชม.โดยทหารที่อยู่ในแต่ละป้อมจะคอยสังเกตและมองหาสัญญาณไฟตลอดเวลา ซึ่งถ้าหากทหารที่ป้อมเห็นสัญญาควันไฟ ทหารคนนั้นก็จะจุดควันไฟต่อเพื่อให้ทหารที่อยู่ป้อมถัดไปได้เห็นเป็นทอดๆ ไปอย่างนี้เรื่อยๆ จนกระทั่งถึงเมืองหลวง โดยแต่ละป้อมจะถูกสร้างเพื่อให้ป้อมที่อยู่ใกล้ที่สุดเห็นได้ชัดเจน
ชาวจีนเชื่อว่ากำแพงเมื่องจีนซึ่งสร้างโดยคนงานนับล้านคนจะปกป้องพวกเขาไปตลอดกาล แต่แล้วก็มีการบุกปล้นปักกิ่งในปี ค.ศ. 1644 โดยทหารฝ่ายกบฏพวกหนึ่ง ในความวุ่นวายที่ตามมา แมนจูชนเผ่าเร่ร่อนเผ่าหนึ่งจึงได้คิดที่จะนำกองทัพใหญ่บุกประเทศจีน ในช่วงที่เกิดความวุ่นวายนี้ แต่ทว่ากำแพงเมืองจีนเป็นอุปสรรคที่สำคัญของพวกแมนจู แต่เรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อนายพลคนหนึ่งของกองทัพจีนที่ได้มีการตกลงกันลับๆกับพวกแมนจู ได้สั่งเปิดประตูของกำแพงเมืองจีนปล่อยให้กองทัพของพวกแมนจูเข้ามาเพื่อยึดเมืองหลวง

กำแพงเมืองจีนช่วยปกป้องเส้นทางการค้า

นอกจากการป้องกันการรุกรานจากพวกคนเถื่อนแล้ว กำแพงเมืองจีนยังทำให้การค้าของจีนในแนว “ถนนสายไหม” ซึ่งเป็นเส้นทางการค้าที่สำคัญ ปลอดภัยยิ่งขึ้นอีกด้วย และเมื่อการค้ามีความมั่นคงขึ้น ประเทศจีนจึงร่ำรวยจากการค้านี้
กำแพงเมืองจีนกับชาวยุโรป
ในปี 1793 อังกฤษได้ส่งคณะสำรวจทางการฑูตไปยังประเทศจีนนำโดยลอร์ดแม็คคาร์ทนีย์เพื่อพยายามเปิดเส้นทางการค้าให้กับประเทศอังกฤษ และเมื่อลอร์ดแม็คคาร์ทนีย์แวะชมกำแพงเมืองจีน ก็ทำให้เขาถึงกับทึ่งในความยิ่งใหญ่ของมันซึ่งทำให้ไกด์ชาวจีนของเขาก็งงงวยทำไมถึงมีใครสนใจกองหินโบราณด้วย
หลังจากการปฏิเสธของจักรพรรดิจีนที่จะค้าขายกับประเทศอังกฤษ จึงทำให้ประเทศอังกฤษถือโอกาสนี้ในการทำสงครามกับประเทศจีน และด้วยความที่ประเทศจีนในตอนนั้นล้าสมัยทางด้านอาวุธกว่าชาวอังกฤษมากจึงทำให้ไม่สามารถต่อต้านการบุกยึดของประเทศอังกฤษได้ การรบในครั้งนี้ข้าศึกของประเทศจีนไม่ได้มาจากทางเหนือนอกกำแพงเมืองจีน แต่ข้าศึกมาจากทางทะเล เป็นผลให้อาณาจักรจีนล่มสลาย

Related Articels

0 ความคิดเห็น

Leave a Reply


Copyright © 2011 รอบรู้เมืองจีน | Designed by 4x100Utd